วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ


องค์ประกอบและหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
1.            หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์
         การทำงานของคอมพิวเตอร์เริ่มจากการป้อนข้อมูลผ่านทางหน่วยรับเข้า ซึ่งข้อมูลที่ป้อนเข้าไปนี้จะถูกแปลงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าในรูปแบบของตัวเลขใน ระบบตัวเลขฐานสองเป็นคำสั่งในการติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์หรือสั่งให้ คอมพิวเตอร์ทำงานได้ตามต้องการ จากนั้นคำสั่งจะถูกส่งไปยังหน่วยประมวลผลกลางเพื่อประมวลผลตามคำสั่ง ในระหว่างการประมวลผลหากมีคำสั่งให้นำผลลัพธ์จากการประมวลผลไปจัดเก็บใน หน่วยความจำหลักประเภทแรม ผลลัพธ์ดังกล่าวจะถูกส่งไปยังหน่วยความจำหลักประเภทแรม พร้อมทั้งค่าที่อ้างอิงถึงตำแหน่งในการจัดเก็บในขณะเดียวกันอาจมีคำสั่งให้ นำผลลัพธ์จากการประมวลผลไปแสดงยังหน่วยส่งออกได้ด้วยโดยการส่งผลลัพธ์ที่ได้ จากการประมวลผลข้อมูลไปยังหน่วยต่างๆภายในคอมพิวเตอร์จะผ่านทางระบบบัส
2.            องค์ประกอบของคอมพิวเตอร์                                                                  -หน่วยรับข้อมูล                                                                                  เป็นส่วนที่ทำหน้าที่รับข้อมูลจากภายนอกเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นสิ่ง ที่เชื่อมโยจากผู้ใช้คอมพิวเตอร์สู่เครื่องคอมพิวเตอร์  ยกตัวอย่าง เช่น เม้าส์  แป้นพิมพ์ เป็นต้น
-หน่วยประมวลผลกลาง
          เป็นส่วยที่ทำหน้าที่ควบคุมและประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย 2ส่วนคือ
         1.ส่วนควบคุม เป็นส่วนที่สร้างสัญญาณและส่งสัญญาณไปควบคุมการทำงานของส่วนประกอบต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์
        2.ส่วนที่คำนวณและเปรียบเทียบข้อมูล ทำหน้าที่คำนวณและเปรียบเทียบข้อมูลโดยอาศัยหลักการทางคณิตศาสตร์ และตรรกศาสตร์
-หน่วยความจำหลัก
             เป็นหัวใจของการทำงานในรูปแบบอัตโนมัติ มีหน้าที่เก็บข้อมูลต่างๆ แบ่งออกเป็น 2ประเภทคือ
        1.หน่วยความจำแบบถาวร
        2.หน่วยความจำชั่วคราว
-หน่วยความจำสำรอง
คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง
คุณลักษณะของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกได้ 5ประเภทได้แก่
1.            ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด มีราคาแพงมาก มีขนาดใหญ่
2.            เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีสมรรถนะการทำงานสูงแต่ไม่เน้นความเร็วในการคำนวณเป็น หลัก แต่มีความเร็วสูง นิยมใช้ในองค์กรใหญ่ๆ
3.            มินิคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานในองค์กร ขนาดกลาง
4.            ไมโครคอมพิวเตอร์ เป็นคอมพิวเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพราะประสิทธิภาพสูง ราคาไม่แพงจึงเหมาะสำหรับใช้ส่วนตัวที่บ้าน โรงเรียน เป็นต้น
5.            คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เป็นคอมพิวเตอร์ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลประจำวันได้ เล่นเกม ฟังเพลงได้ เป็นต้น เช่น ไอโฟน บีบี เป็นต้น
 อุปกรณ์ต่อพ่วง
1. เครื่องพิมพ์ชนิดต่าง ๆ (Printer)
             เครื่องพิมพ์ เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อทำหน้าที่ในการแปลผลลัพธ์ ที่ได้จากการประมวลผลของเครื่องคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในรูปของอักขระหรือรูปภาพ ที่จะไปปรากฏอยู่บนกระดาษนับเป็นอุปกรณ์แสดลงผลที่นิยมใช้เครื่องพิมพ์แบ่ง ออกเป็น 4 ประเภท
1. เครื่องพิมพ์ดอตแมทริกซ์ (Dot Matrix Printer)
2. เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก (Ink-Jet Printer)
3. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser Printer)
4. พล็อตเตอร์ (plotter)
2. เครื่องสแกนภาพ (Scanner)
             สแกนเนอร์ คืออุปกรณ์ซึ่งจับภาพและเปลี่ยนแปลงภาพจากรูปแบบของอนาล็อกเป็นดิจิตอลซึ่ง คอมพิวเตอร์สามารถแสดงเรียบเรียงเก็บรักษาและผลิตออกมาได้ภาพนั่นอาจจะเป็น รูปถ่าย ข้อความ ภาพวาด หรือแม้แต่วัตถุสามมิติสามารถใช้สแกนเนอร์ทำงานต่างๆ  ได้ดังนี้
·          
    • ในงานเกี่ยว กับงานศิลปะหรือภาพถ่ายในเอกสาร
    • บันทึกข้อมูล ลงในเวิร์ดโปรเซสเซอร์
    • แฟ็กเอกสาร ภายใต้ดาต้าเบส และ เวิร์ดโปรเซสเซอร์
    • เพิ่มเติมภาพ และจินตนาการต่าง ๆ ลงในในผลิตภัณฑ์สื่อโฆษณาต่าง ๆ โดยพื้นฐานการทำงานของสแกนเนอร์
ชนิดของสแกนเนอร์และความสามารถในการทำงานของสแกนเนอร์แบ่งออกได้เป็น
1. Flatbed scanners ซึ่งใช้สแกนภาพถ่ายหรือภาพพิมพ์ต่าง ๆ สแกนเนอร์ชนิดนี้มีพื้นผิวแก้วบนโลหะที่เป็นตัวสแกน เช่น ScanMader III
2. Transparency and slide scanners ScanMaker ซึ่งถูกใช้สแกนโลหะโปร่ง เช่นฟิล์มและสไลด์
สิ่งที่จำเป็น สำหรับการสแกนภาพ  มีดังนี้
·          
    • SCSI และสาย SCSI หรือ Parallel Port สำหรับต่อจากสแกนเนอร์ ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์
    • ซอฟต์แวร์ สำหรับการสแกนภาพซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของสแกนเนอร์ให้สแกนภาพตามที่ กำหนด
    • สแกนเอกสาร เก็บไว้เป็นไฟล์ที่นำมาแก้ไขได้อาจต้องมีซอฟแวร์ที่สนับ สนุนด้าน OCR
    • จอภาพที่ เหมาะสมสำหรับการแสดงภาพที่สแกนมาจากสแกนเนอร์
    • เครื่องมือ สำหรับแสดงพิมพ์ภาพที่สแกน เช่น เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ หรือสไลด์โปรเจคเตอร์
 3. โมเด็ม (Modem)
             เป็นอุปกรณ์สำหรับคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่งที่ช่วยให้คุณสัมผัสกับโลกภายนอกได้ อย่างง่ายดายโมเด็มเป็นเสมือนโทรศัพท์สำหรับคอมพิวเตอร์ที่จะช่วยให้ระบบ คอมพิวเตอร์ของเราสามารถสื่อสารกับคอมพิวเตอร์อื่นๆได้ทั่วโลกโมเด็มจะ สามารถทำงานของเราสามารสื่อสารกับคอมพิวเตอร์อื่นๆได้ทั่วโลกโมเด็มจะสามารถ ทำงานของคุณให้สำเร็จได้ก็ด้วย การเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ของคุณเข้าคู่สายของโทรศัพท์ธรรมดาคู่หนึ่ง ซึ่งโมเด็มจะทำการแปลงสัญญาณ ดิจิตอล (digital signals) จากเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณ อนาลอก (analog signals) เพื่อให้สามารถส่งไปบนคู่สายโทรศัพท์
ความ สามารถของโมเด็ม เราสามารถใช้โมเด็มทำอะไรต่างๆได้หลายอย่าง เช่น
·          
    • ใช้บริการ ต่างๆ จากที่บ้าน เช่นสั่งซื้อของผ่านอินเตอร์เน็ต
    • ท่องไปบน อินเตอร์เน็ต
    • เข้าถึง บริการออนไลน์ได้
    • ดาวน์โหลด ข้อมูล , รูปภาพและโปรแกรมแชร์แวร์ได้
    • ส่ง รับโทรสาร
    • ตอบรับ โทรศัพท์
    •   

ขั้นตอนเเละหลักการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์

ข้อตอนเเละหลักการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์ 1.พยายามหาสาเหตุว่าเป็นเพราะส่วนประกอบใดของคอมพิวเตอร์โดยสังเกตุอาการที่ เกิดขึ้นทุกครั้งที่คอมพิวเตอร์เกิดอาการผิดปกติหรือทำงานผิดพลาด คอมพิวเตอร์ จะแสดงข้อความที่จะบอกเราถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น Drive A is not Access, Can not Fine this file,invalid Drive ข้อความเหล่านี้จะบอกถึงสถานะที่เกิดขึ้นขณะนั้น

2.เมื่อมีสมมุติฐาน ในเบื้องต้นแล้ว สิ่งสำคัญที่จะต้องทำต่อมาก็คือ เราต้องพยายามพิสูจน์สมมุติฐานของเรา หรือพูดง่ายๆก็คือ ลองแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นดูก่อนโดยสังเกตูจากข้อความที่แจ้งหรืออาการที่เกิด ขึ้นนั้น โดยในการลองผิดลองถูกนั้นเราจะต้องพยายามจด จำไว้เสมอว่าเราได้ทำอะไรไปบ้าง
3.เมื่อเรารู้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าอาการเสียดังกล่าวเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร เราจะต้องพยายามศึกษษการทำงานเบื้องต้นของอุปกรณ์เหล่านั้นเสียก่อน เช่น ถ้าเกิดขึ้นจากฮาร์ดดิสก์ เราก็ควรจะรู้จักกับฮาร์ดดิสก์บ้างเล็กน้อย เป็นต้นว่า อะไรคือ Partition ทำไมต้องทำการแบ่งพาร์ติชัน มีความสำคัญอย่างไร

4.ลงมือจัดการกับอาการเสียเหล่านั้นได้เลย โดยจะต้องพยายามจดจำสิ่งที่เราทำลงไปได้เสมอว่าทำอะไรลงไปบ้าง สำหรับการซ่อมอาการเสียในเบื้องต้น ที่พบบ่อยๆ อาจแก้ไขเองได้ แต่ในอาการที่หนัก อาจส่งให้กับช่างผู้เชี่ยวชาญ

5.หลังจากที่เรา ซ่อมในส่วนที่เราคิดว่าเสียหายจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายที่เราจำเป็นที่จะต้องทำ นั่นก็คือ การตรวจสอบการทำงานหลังการซ่อมเสร็จอแล้วนั่นเอง ถ้าหากว่าเราซ่อมได้ผล อาการเสียที่ว่าคงจะดีขึ้น

ที่มา http://comsubmit.blogspot.com/2010/05/blog-post_20.html 



    วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

    ประวัติของฉันนะจ๊ะ


             
    ใบงานที่ 1 แบบสำรวจและประวัติของ นาย ศรัณย์  สุขศรี
    ชั้น ม. 4/1 เลขที่25




    1. ชื่อ-สกุล นายศรัณย์ สุขศรี                                                          เลขประจำตัว 44352    เลขที่ 25
    ชื่อเล่น  แซค                                  
     กรุ๊ปเลือด O       วันเกิด 28/7/2538
    ที่อยู่  1/1 ม.2 ต.น้ำรัด อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ 54170           
    โทรศัพท์ 083-4776767               
    ภูมิลำเนาเดิม (กรณีไม่ได้อยู่กับบิดามารดา)  -                 
    2. ชื่อบิดา นายสมพล  สุขศรี              โทรศัพท์  081-7067979                                   
    ชื่อมารดา นางปราณี  สุขศรี           โทรศัพท์  088-4312341                                  
    3. ชื่อผู้ปกครอง นายสมพล  สุขศรี      โทรศัพท์  081-7067976                              
    ความเกี่ยวพันธ์กับนักเรียน เป็น บิดา                                 
     อาชีพ รับราชการ ครู                                 รายได้/เดือน   27000   บาท
    4. จบชั้น ม.3 มาจากโรงเรียน เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ พะเยา
    เนื้อหา/วิชาคอมพิวเตอร์ ที่เคยเรียนมา ได้แก่   
           Microsoft Word                 Microsoft Excel    
            Microsoft Powerpoint    
    5. มีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้ส่วนตัว                         มี      
    ถ้ามีคอมพิวเตอร์ ใช้อินเทอร์เน็ตด้วยหรือไม่      ใช้     
    6. ความใฝ่ฝันในอนาคต  ทันตแพทย์
    คติธรรมประจำใจ ยิ้มเข้าไว้
    สิ่งที่ต้องการให้ทางโรงเรียนจัดให้กับนักเรียน โน็ตบุค
    แผนที่บ้าน